สร้างเครดิตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง! วิธีอัปเกรดเครดิตให้ปังแบบมือโปร

เทคนิคการออม

Banner image alt

สร้างเครดิตดี มีชัยไปกว่าครึ่ง! วิธีอัปเกรดเครดิตให้ปังแบบมือโปร

เทคนิคเก็บเงินได้
25/8/2025
Share

Highlight

       การมีเครดิตดีไม่ใช่แค่การมีเงินเยอะ หรือมีรายรับต่อเนื่อง เพราะการประเมินเครดิตของสถาบันการเงินมีความซับซ้อนมากกว่าที่หลายคนเคยเข้าใจ ดังนั้น การทำความเข้าใจเรื่องนี้ รวมทั้งพยายามรักษาเครดิตให้ดีจะช่วยเปิดโอกาสทางการเงินให้เราได้ ไม่ว่าจะเป็นการได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า ได้วงเงินสินเชื่อที่สูงกว่า หรือแม้แต่การมีอำนาจต่อรองกับสถาบันการเงิน เรามาทำความเข้าใจกันว่า การสร้างเครดิตนั้นสำคัญยังไง แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะทำให้เครดิตดีจนธนาคารอยากจดชื่อคุณลง Best List
 

OG-Image-(8).jpg

เครดิตคืออะไร

       เครดิต หรือ “ประวัติเครดิต” คือ ประวัติการใช้จ่ายและการชำระหนี้ของแต่ละคนในระบบธนาคาร เป็นเหมือนไดอารี่การเงินที่บันทึกทุกการกระทำของคุณ ตั้งแต่วันแรกที่คุณเริ่มใช้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อในระบบใด ๆ ก็ตาม ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกเก็บไว้ที่บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “เครดิตบูโร” ซึ่งทำหน้าที่เหมือนครูฝ่ายปกครองที่คอยจดคะแนนพฤติกรรมของเรา และสรุปผลออกมาเป็น “เครดิตสกอร์” (credit score) หรือคะแนนเครดิต ซึ่งคะแนนนี้มีความสำคัญมาก เพราะเมื่อเวลาที่คุณไปขอสินเชื่อหรือสมัครบัตรเครดิต สิ่งแรกที่ธนาคารจะใช้พิจารณาก็คือเครดิตสกอร์นั่นเอง

มีเครดิตดีเท่ากับปลดล็อกชีวิตการเงินระดับพรีเมียม

       การมีเครดิตดีเหมือนกับการถือบัตรสมาชิก VIP ของโลกการเงิน ซึ่งตามมาด้วยสิทธิต่าง ๆ เช่น

1. ขอสินเชื่อง่ายขึ้น
       เมื่อคุณต้องการซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือขอสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจ การมีเครดิตดีจะทำให้ธนาคารมองคุณเหมือนลูกค้า VIP ที่น่าเชื่อถือ กระบวนการอนุมัติอาจจะเร็วกว่า ใช้เอกสารน้อยกว่า และโอกาสผ่านการพิจารณาจะสูงกว่า ในขณะเดียวกันต่อให้คุณมีรายได้สูงหลักแสนบาทต่อเดือน แต่ถ้าเครดิตไม่ดี การขอสินเชื่อก็จะยากขึ้นอย่างแน่นอน

2. ได้ดอกเบี้ยต่ำกว่า ช่วยประหยัดเงินในระยะยาว
       คนที่มีเครดิตดีมักได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าคนที่เครดิตไม่ดี บางครั้งอาจต่างกันถึง 2-3% ต่อปี ซึ่งหากคำนวณจากสินเชื่อระยะยาว 30 ปี จะลดดอกเบี้ยลงไปได้หลักล้านบาทเลย ลองคิดดูว่า หากคุณกู้บ้าน 3 ล้านบาท คนที่เครดิตดีอาจได้ดอกเบี้ย 3% ต่อปี เท่ากับ 1.55 ล้านบาทโดยประมาณ ในขณะที่คนเครดิตไม่ดีต้องจ่าย 5% ต่อปี เท่ากับ 2.8 ล้านบาทโดยประมาณ ความต่างเพียง 2% นี้ จะทำให้คุณประหยัดได้หลักล้านบาทตลอดอายุสินเชื่อเลยทีเดียว

3. ได้วงเงินสินเชื่อสูง ช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ
       ยิ่งคะแนนเครดิตสูง ธนาคารยิ่งให้วงเงินสินเชื่อสูงเพราะมีความเชื่อมั่นในความสามารถของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถหยิบยืมเงินก้อนใหญ่ไปต่อยอดโอกาสต่าง ๆ ในชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านหลังที่สอง เริ่มต้นธุรกิจ หรือลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ

4. เป็นลูกค้าชั้นดี มีอำนาจต่อรองมากขึ้น
       เมื่อมีเครดิตดี คุณจะไม่ใช่แค่ผู้ขอกู้ธรรมดา แต่กลายเป็นลูกค้าที่ธนาคารต้องการรักษาไว้ เพราะลูกค้าที่มีเครดิตดีคือบุคคลทรงคุณค่า มีความเสี่ยงต่ำ และธนาคารมั่นใจความสามารถในการชำระเงินคืน ซึ่งนั่นทำให้คุณสามารถเจรจาเรื่องอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าอัตราประกาศ ต่อรองเงื่อนไขการชำระ หรือขอสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียม การปรับวันครบกำหนดชำระ หรือการรีเทนชั่น เป็นต้น
นอกจากนี้ ธนาคารหลายแห่งจะแย่งชิงลูกค้าที่มีเครดิตดี โดยเสนอเงื่อนไขที่ดีกว่าคู่แข่ง และนี่คือความแตกต่างระหว่างการเป็น “ผู้ขอ” กับการเป็น “ลูกค้าที่ธนาคารต้องการ”

พฤติกรรมแบบไหนล่ะ ที่ทำให้เครดิตดี

       การสร้างเครดิตให้ดีไม่ใช่เรื่องยาก แต่จำเป็นต้องใช้ความสม่ำเสมอ วินัยทางการเงิน และพฤติกรรมที่จะทำให้คุณมีเครดิตแข็งแกร่ง คือ

1. การใช้บัตรเครดิต เพื่อสร้างเครติด
       บัตรเครดิตคือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการสร้างเครดิต สิ่งสำคัญที่สุดในการใช้บัตรเครดิตอย่างถูกต้องคือ การชำระเต็มจำนวนทุกเดือน นี่คือกฎข้อแรกและสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณสร้างเครดิตที่ดูดีได้อย่างทันตาเห็น การชำระเพียงขั้นต่ำจะทำให้คุณติดกับดักดอกเบี้ยที่สูงมาก อาจสูงถึง 18-20% ต่อปี ซึ่งแพงกว่าการกู้เงินจากธนาคารเสียอีก นอกจากนี้ควรจ่ายก่อนวันครบกำหนด 3-5 วัน อย่ารอจนถึงวันสุดท้าย เพราะหากระบบมีปัญหาหรือโอนเงินล่าช้า คุณอาจถูกคิดค่าปรับและส่งผลเสียต่อเครดิตได้
อีกหลักการสำคัญคือ การใช้บัตรไม่เกิน 30% ของวงเงินที่มี ตัวอย่างเช่น หากคุณมีวงเงิน 60,000 บาท ควรใช้ไม่เกิน 18,000 บาท เพราะการใช้เงินเกิน 30% จะส่งสัญญาณว่าคุณอาจมีปัญหาสภาพคล่อง และอาจส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิตในระยะยาว

2. เดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ
       บัญชีธนาคารของคุณเป็นสิ่งที่ธนาคารจะพิจารณาอย่างละเอียด การมียอดคงเหลือที่สม่ำเสมอ มีการเงินเข้า-ออกอย่างเป็นระบบระเบียบ และไม่เคยทำให้บัญชีติดลบ จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับธนาคาร สิ่งที่ควรทำคือตั้งเป้าให้มียอดคงเหลือมากว่ายอดเบิกถอนเสมอ และหลีกเลี่ยงการถอนเงินจนหมดบัญชี นอกจากนี้ การเก็บออมด้วยบัญชีเงินฝากประจำ แม้จะเป็นจำนวนเล็กน้อย ก็จะเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณมีวินัยการเงินและสามารถบริหารเงินได้อย่างเป็นดี

3. การสร้างประวัติเครดิตผ่านการผ่อนสินค้า
       หากคุณยังไม่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้ แต่มีบัตรผ่อนสินค้า หรือบัตรกดเงินสด และซื้อสินค้าด้วยการผ่อนชำระผ่านระบบธนาคาร ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเริ่มต้นสร้างเครดิต เช่น การผ่อนโทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่การใช้สินเชื่อเพื่อกู้ซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก็ตาม โดยต้องรักษาวินัยและจ่ายค่างวดให้ตรงเวลาทุกเดือน ก็จะช่วยสร้างประวัติเครดิตเบื้องต้นได้
สิ่งสำคัญที่ต้องระวัง คือ ต้องเลือกผ่อนกับสถาบันการเงินที่มีการส่งข้อมูลไปยังเครดิตบูโรเท่านั้น หากผ่อนกับร้านค้าโดยตรงที่ไม่ผ่านระบบธนาคาร ก็จะไม่ช่วยสร้างเครดิตได้ นอกจากนี้ การรักษาวินัยในการชำระให้ตรงเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะประวัติการชำระเหล่านี้จะถูกส่งไปยังเครดิตบูโร และกลายเป็นฐานข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้คุณขอสินเชื่อหรือสมัครบัตรเครดิตใหม่ได้ง่ายขึ้นในอนาคต


รู้หรือไม่? ไม่มีเงินเดือน หรือเป็นฟรีแลนซ์ก็สร้างเครดิตได้

       หลายคนเข้าใจผิดว่าคนที่ไม่มีสลิปเงินเดือนจะสร้างเครดิตไม่ได้ ความจริงแล้วไม่ใช่ คนที่ทำงานฟรีแลนซ์ มีอาชีพอิสระ (Freelance) หรือเป็นเจ้าของธุรกิจ (Self-employed) อย่างเช่น YouTuber Influencer พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ก็สามารถสร้างเครดิตที่ดีได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

1. สร้างประวัติการเงินที่น่าเชื่อถือ
       การเดินบัญชีอย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ควรแยกบัญชีส่วนตัวและบัญชีสำหรับธุรกิจออกจากกัน และฝากเงินจากธุรกิจลงบัญชีเดียวกันเสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอของรายได้ นอกจากนี้ การรักษายอดคงเหลือให้สูงกว่าค่าใช้จ่ายรายเดือน จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดี

2. รวบรวมหลักฐานรายได้อย่างครบถ้วน
       สำหรับคนที่ทำงานอิสระ การเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรายได้เป็นสิ่งจำเป็น ควรเก็บหนังสือรับรองหักภาษี ณ ที่จ่าย จากลูกค้าทุกราย จัดทำใบเสร็จรับเงินที่เป็นระบบและมีมาตรฐาน รวมถึงการเก็บสัญญาการทำงานหรือ Purchase Order จากลูกค้าไว้เป็นหลักฐาน และที่สำคัญควรยื่นภาษีเพื่อแสดงรายได้ทุกปี เอกสารเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญเมื่อต้องการสมัครบัตรเครดิตหรือขอสินเชื่อ

3. ใช้บัตรเครดิตแบบเงินมีฝากค้ำประกัน
       การสมัครบัตรเครดิตแบบใช้เงินฝากค้ำประกันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่มีประวัติเครดิต ควรเริ่มจากวงเงินน้อย ๆ เช่น 10,000-20,000 บาท ใช้จ่ายอย่างมีวินัยเพื่อสร้างเครดิต และชำระเงินตรงเวลาทุกครั้งเพื่อสร้างประวัติที่ดี และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการขอสินเชื่อในอนาคต


การบริหารเงินสมัยใหม่ทำได้ง่ายขึ้นผ่านเทคโนโลยี

       ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง การบริหารเงินและการออมเงินก็กลายเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก หากคุณต้องการผู้ช่วยที่จะทำให้การบริหารเงินเป็นระบบมากขึ้น แอปพลิเคชัน Kept by krungsri ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ดาวน์โหลด คลิก
Kept by krungsri คือ แอปบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีที่ออกแบบมาเพื่อให้การเก็บออมและการลงทุนเป็นเรื่องง่าย สนุก และทำได้จริง ด้วยฟีเจอร์ที่ครบครันตั้งแต่การเก็บออม ที่ให้ดอกเบี้ยสูงหรือตั้งสั่งเก็บเงินสม่ำเสมอ บริหารเงินแยกใช้แบ่งเก็บ ไปจนถึงการลงทุนในกองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและดูแล ซึ่งการมีเงินออมที่มั่นคงและเป็นระบบ จะยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครดิตของคุณด้วย เพราะได้แสดงให้ธนาคารเห็นถึงวินัยการเงิน และความสามารถในการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ประกอบการพิจารณาในการขอสินเชื่อด้วยนั่นเอง

รู้จักแอป Kept by krungsri มากขึ้น 


เส้นทางสู่การมีเครดิตดี ไม่ยากอย่างที่คิด

       การมีเครดิตดีไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือผลลัพธ์ของวินัยทางการเงินและความตั้งใจที่สม่ำเสมอ หากคุณเริ่มต้นวันนี้ แม้เพียงก้าวเล็ก ๆ ก็สามารถเปลี่ยนอนาคตทางการเงินของคุณได้ อย่ารอจนถึงวันที่โอกาสดี ๆ เข้ามา แต่ต้องปล่อยมือไปเพราะคุณมีเครดิตไม่เพียงพอ และทุกการตัดสินใจเริ่มต้นสร้างเครดิตทันทีตอนนี้ คือการเตรียมพร้อมเพื่อชีวิตที่มั่นคงในวันหน้า
 

ข้อมูลอ้างอิง: