DCA คืออะไร วิธีนี้ช่วยเก็บเงินล้านแรกได้จริงไหม
Highlight
ใครที่กำลังมองหาวิธีสร้างความมั่งคั่งระยะยาวและอยากเก็บเงินล้านแรกให้ได้ แต่ไม่รู้จะลงทุนรูปแบบไหน “DCA” คือคำตอบที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง DCA หรือ Dollar Cost Averaging คือกลยุทธ์การลงทุนด้วยการซื้อสินทรัพย์เป็นจำนวนเงินเท่า ๆ กันตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องสนใจว่าราคาของสินทรัพย์นั้นจะอยู่ในระดับใด เปรียบเสมือนการลงทุนแบบ “ทยอยสะสมความมั่งคั่ง” หลักการของ DCA นั้นง่ายมาก คือ แทนที่จะรอลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ครั้งเดียว เราจะทยอยนำเงินที่มีมาลงทุนเป็นงวด ๆ ในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น ทุกเดือน หรือทุกไตรมาส วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ในจังหวะที่ตลาดมีความผันผวนสูง และยังเป็นวิธีเก็บเงินล้านแรกที่ได้ฝึกวินัยการออมและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
หลักการทำงานของ DCA ที่ช่วยเก็บเงินล้านแรกได้ และข้อดีที่ไม่ควรมองข้าม
การทำงานของ DCA เพื่อเก็บเงินล้านแรกนั้น อาศัยหลักการเฉลี่ยต้นทุนและการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวม โดยใช้เงินลงทุน 5,000 บาท ทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง หากช่วงดังกล่าวสินทรัพย์ราคาสูง เราจะได้จำนวนหน่วยลงทุน (NAV) น้อย แต่เมื่อราคาต่ำลงเราจะได้จำนวนหน่วยลงทุนมากขึ้น โดยในระยะยาวตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ต้นทุนเฉลี่ยของเรามักจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม และต่ำกว่าภาวะตลาดในขณะนั้น ทำให้มีโอกาสได้กำไรนั่นเองข้อดีของ DCA ที่ทำให้วิธีนี้เป็นที่นิยม
1. สามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการจับจังหวะตลาด สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินทุนน้อย ๆ และเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ หรือไม่มีเวลาติดตามตลาดอย่างใกล้ชิด
2. ช่วยขจัดอารมณ์ออกไปจากการลงทุน ซึ่งโดยปกติแล้วหลายคนมักจะกลัวเมื่อตลาดอยู่ในภาวะขาลง และโลภอยากขายทำกำไรก่อนถึงเป้าหมายเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น แต่ด้วยวิธีการ DCA เราจะกล้าลงทุนอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไรก็ตาม
ตัวอย่างการคำนวณเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวมแบบ DCA
ลองมาดูตัวอย่างการ DCA ที่จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายเงินล้านกัน สมมติว่าเราต้องการเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวมที่มีผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ต่อปี หากเราเริ่มลงทุน 5,000 บาทต่อเดือนอย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะเวลา 15 ปี เราจะลงทุนไปทั้งหมด 900,000 บาท แต่ด้วยพลังของดอกเบี้ยทบต้น เงินของเราจะเติบโตเป็น 1,359,449.51 บาท
และยิ่งในกรณีที่เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วัยหนุ่มสาวเพิ่งเริ่มทำงาน หากลงทุน 3,000 บาทต่อเดือนตั้งแต่อายุ 21 ปี และลงทุนต่อเนื่องจนอายุ 60 ปี เราจะมีระยะเวลาให้เงินทำงานมากขึ้นถึง 40 ปี ซึ่งจะได้พอร์ตมูลค่า 4,566,231.47 บาท ทั้งที่ใช้เงินลงทุนไปเพียง 1,440,000 บาทเท่านั้น ทั้ง 2 ตัวอย่างนี้จึงช่วยยืนยันได้ว่า การ DCA ทำให้เราถึงเป้าหมายเงินล้านได้จริง
กลยุทธ์ DCA ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
สำหรับในยุคดิจิทัลนั้นวิธีเก็บเงินล้านแรกด้วยการ DCA เป็นวิธีที่สะดวกมาก เพราะสามารถตั้งค่าให้ DCA อัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชันได้ ทำให้ไม่ต้องคอยจำวันที่หรือหลงลืมไป อย่างแอปพลิเคชัน Kept by krungsri ซึ่งมีกระปุกลงทุน Kept Invest ที่ออกแบบมาเพื่อให้ลงทุนได้ง่ายสำหรับนักลงทุนมือใหม่ และสามารถตั้งค่า DCA ได้ตามความต้องการ
และแอปฯ Kept ยังออกแบบมาเพื่อให้การเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวมทำได้ง่ายขึ้น คุณสามารถลองวางแผนจนมั่นใจก่อนเลือกลงทุนได้ หรือจะเลือกลงทุนผ่านแผนที่ Kept มีไว้ให้ก็ได้ โดยเฉพาะแผน 1st Million ที่ออกแบบมาให้คุณได้ลงทุนแบบ DCA ในกองทุนรวมเพื่อเป้าหมายเงินล้านแรกของคุณ นอกจากนี้ยังมีแผนอื่น ๆ ที่เลือกได้ คือ
• All Balance สำหรับเป้าหมายการลงทุนระยะกลางที่คาดหวังผลตอบแทน 6-8% ต่อปี
• Tax saving fund สำหรับการลงทุนในกองทุนประหยัดภาษี และเป็นการลงทุนระยะยาว
• DIY สำหรับคนที่ชอบจัดพอร์ตเอง และต้องการลงทุนระยะยาว เริ่มต้นเพียง 1 บาทก็ลงทุนได้หลากหลายบลจ. ชั้นนำในประเทศไทย
• Goal สำหรับคนที่มีเป้าหมายการลงทุนชัดเจน สามารถเลือกความเสี่ยงได้ตามต้องการ และลงทุนแบบ DCA เริ่มต้นเพียง 5,000 บาท/เดือน
วิธีเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสมสำหรับ DCA
การเลือกสินทรัพย์สำหรับ DCA เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะกำหนดความสำเร็จของการลงทุนระยะยาว ดังนั้นควรอาศัยการวิเคราะห์หลายปัจจัยเพื่อให้ได้พอร์ตที่เหมาะสมกับตัวเรา
1.เข้าใจตัวเองก่อนเลือกสินทรัพย์
ก่อนเลือกสินทรัพย์ใด ๆ เราต้องเข้าใจตัวเองก่อน โดยพิจารณาจากระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หากคุณเป็นคนที่นอนไม่หลับเมื่อเห็นพอร์ตขาดทุน 20% สินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูงอาจไม่เหมาะ ในทางกลับกัน หากคุณเป็นคนหนุ่มสาวที่มีเวลาลงทุนยาวนาน 15-20 ปี การยอมรับความเสี่ยงสูงขึ้นเพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดี นอกจากนี้ ระยะเวลาการลงทุนเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางการเลือกสินทรัพย์ หากเป้าหมายของคุณคือ การเกษียณในอีก 30 ปี คุณสามารถเลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงได้ แม้จะมีความผันผวนมาก แต่หากต้องการใช้เงินในอีก 5 ปี ความมั่นคงของเงินต้นควรเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก
2. ตัวเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะกับ DCA
การเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวมดัชนี เป็นตัวเลือกแรกที่ควรพิจารณาสำหรับมือใหม่ เนื่องจากมีการกระจายความเสี่ยงที่ดี มีค่าธรรมเนียมต่ำ และผลตอบแทนจะสะท้อนผ่านภาพรวมของตลาด อย่างกองทุนดัชนี SET50 หรือ S&P 500 เป็นกองทุนยอมนิยม โดยเฉพาะ S&P 500 ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปีในระยะยาว
ตัวอย่างกองทุนรวมดัชนี
- กองทุนเปิดกรุงศรีเอ็นแฮนซ์เซ็ท 50 (ชนิดสะสมมูลค่า) (KFENS50-A) กองทุนรวมตราสารทุนแบบไม่มีความเสี่ยงในต่างประเทศ อยู่ในกลุ่มกองทุน Equity Large Cap มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ขั้นต่ำ 500 บาท และมีค่าธรรมเนียมรวม 0.88% ต่อปี*
- กองทุนเปิดบีแคป เซ็ท อินเด็กซ์ (BCAP-SET) กองทุนรวมตราสารทุนแบบไม่มีความเสี่ยงในต่างประเทศ อยู่ในกลุ่มกองทุน Equity General มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ขั้นต่ำ 500 บาท และมีค่าธรรมเนียมรวม 0.82% ต่อปี*
- กองทุนเปิดกรุงไทย SET50 (ชนิดสะสมมูลค่า) (KT-SET50-A) กองทุนรวมตราสารทุนแบบไม่มีความเสี่ยงในต่างประเทศ อยู่ในกลุ่มกองทุน SET 50 Index Fund มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ขั้นต่ำ 1,000 บาท และมีค่าธรรมเนียมรวม 0.49% ต่อปี*
- กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 INDEX (ชนิดสะสมมูลค่า) (SCBSET50) กองทุนรวมตราสารทุนแบบไม่มีความเสี่ยงในต่างประเทศ อยู่ในกลุ่มกองทุน SET 50 Index Fund มีความเสี่ยงสูงระดับ 6 โดยลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยมุ่งหวังให้ผลประกอบการเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ขั้นต่ำ 1 บาท และมีค่าธรรมเนียมรวม 0.63% ต่อปี*
*ข้อมูล ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2568
3. เครื่องมือช่วยตัดสินใจ
การใช้แอปพลิเคชันการลงทุนที่มีเครื่องมือประเมินความเสี่ยงและมีข้อแนะนำการลงทุน เป็นหนึ่งในวิธีเก็บเงินล้านแรกที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถช่วยให้การตัดสินใจง่ายขึ้น ก่อนการลงทุนจะมีขั้นตอนประเมินความเสี่ยง ผ่านคำถามเกี่ยวกับอายุ รายได้ เป้าหมาย และทัศนคติต่อความเสี่ยง เพื่อแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมให้ และหากคุณเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงเกินระดับที่ประเมินไว้ แอปพลิเคชันก็จะทำการแจ้งเตือนให้ทราบก่อนตัดสินใจอีกครั้ง นอกจากนี้ การศึกษาข้อมูลพื้นฐานของกองทุนที่สนใจ เช่น ประวัติผลตอบแทน ค่าธรรมเนียม และนโยบายการลงทุน จะช่วยให้เข้าใจว่ากองทุนนั้นเหมาะกับเราหรือไม่
4. ข้อควรระวังก่อนเลือกลงทุน
อย่าเลือกสินทรัพย์เพียงเพราะผลตอบแทนในอดีตสูง เพราะนั่นไม่ได้รับประกันผลตอบแทนในอนาคต ควรดูความสม่ำเสมอของผลตอบแทนและเปรียบเทียบกับความเสี่ยงที่ต้องรับ อีกทั้งการกระจายการลงทุนมากเกินไป ก็อาจเป็นข้อเสียได้ เพราะการมีกองทุน 10-15 ตัวในพอร์ตอาจทำให้การจัดการยุ่งยาก และได้ผลตอบแทนเฉลี่ยไม่ดีเท่าที่ควร เพราะสินทรัพย์มีความผันผวนจนลดทอนค่าเฉลี่ยกันเอง ดังนั้น การเลือกลงทุนเพียง 3-5 กองทุนที่มีกลยุทธ์ต่างกัน มักจะเพียงพอแล้ว
เทคนิคเพิ่มพลังให้ DCA เพื่อเก็บเงินล้านแรกได้ไวขึ้น
หลังจากที่ลงทุนไปสักระยะแล้ว หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของการเก็บเงินล้านแรกให้เร็วขึ้นกว่าเดิมนั้น สามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนได้หลายวิธี เช่น
1. การเพิ่มจำนวนเงินลงทุน
เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น เช่น โบนัส ปรับเงินเดือน หรือมีรายได้พิเศษ การนำเงินส่วนนี้มาเพิ่มในการลงทุนแบบ DCA จะช่วยเร่งเป้าหมายเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวมให้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายมากนัก
2. เลือกกองทุนธีมที่มีศักยภาพเติบโตสูง
เพิ่มสัดส่วนด้วยกองทุนรวมที่เน้นธีมเติบโต เช่น เทคโนโลยี พลังงานสะอาด สุขภาพ หรือ AI แม้อาจมีความผันผวนมากกว่ากองทุนทั่วไป แต่ในระยะยาวมักมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า การเลือกธีมที่เหมาะสมกับแนวโน้มของโลกและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จะช่วยเพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
3. ทบทวนแผนการลงทุนปีละ 1-2 ครั้ง
แม้จะใช้วิธี DCA ที่เน้นความสม่ำเสมอ แต่การทบทวนแผนการลงทุนเป็นระยะ เช่น ทุก ๆ 6-12 เดือน จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมว่า เป้าหมายยังสอดคล้องกับชีวิตปัจจุบันหรือไม่ เช่น ในอนาคตรายได้เปลี่ยน ความเสี่ยงเปลี่ยน หรือมีเป้าหมายใหม่เพิ่มเข้ามา การปรับแผนให้ทันสถานการณ์จะช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและไม่หลุดกรอบ
4. ปรับสมดุลพอร์ต (Rebalancing) ให้สอดคล้องกับแผนที่วางไว้
หลังจากทบทวนแผนแล้ว หากพบว่าสัดส่วนการลงทุนเบี่ยงเบนไปจากเดิม เช่น บางกองทุนเติบโตเร็วเกินไปจนอาจเพิ่มความเสี่ยง การปรับสัดส่วนให้กลับมาเท่ากับแผนเดิม เช่น สัดส่วน 50:50 ระหว่างหุ้นไทยและต่างประเทศ จะช่วยควบคุมความเสี่ยง และรักษาสมดุลพอร์ตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับเป้าหมายระยะยาวได้
สรุปให้เลย “DCA คือวิธีเก็บเงินล้านแรกที่ใครก็ทำได้”
DCA เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสำหรับการเก็บเงินล้านแรกด้วยกองทุนรวม ซึ่งสามารถช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้จริง แต่ต้องอาศัยความอดทน ความสม่ำเสมอ และการวางแผนที่ดี ความสำเร็จของ DCA ไม่ได้อยู่ที่การเลือกจังหวะตลาดหรือการหาสินทรัพย์ที่ร้อนแรงที่สุด แต่อยู่ที่การลงทุนอย่างสม่ำเสมอในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ โดยต้องจำไว้ว่า DCA ไม่ใช่วิธีรวยเร็ว แต่เป็นวิธีเก็บเงินล้านแรกที่มั่นคงและยั่งยืน
*คำเตือน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/glossary/dollar-cost-averaging
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/55-things-to-know-about-dca
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/258-techniques-for-dca-during-volatile-market
https://www.bot.or.th/th/satang-story/financial-tools/savings-tools.html
https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/468-tsi-explore-us-stock-market-opportunities-risks
https://www.finnomena.com