คนรุ่นใหม่กับความต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน

      หากสังเกตพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่จะพบว่า ต้องการความยืดหยุ่นในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การใช้ชีวิต หรือแม้แต่การจัดการเงิน เนื่องจากไม่ต้องการวางแผนอะไรที่แน่นอนตายตัวเกินไป และต้องการตัวเลือกที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผลิตภัณฑ์การเงินแบบดั้งเดิม อย่างบัญชีเงินฝากประจำจึงไม่ค่อยถูกพูดถึงในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากนัก เพราะมีเงื่อนไขที่ผูกพันต่อเนื่องนั่นเอง

      แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าการฝากเงินไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับพวกเขา ตรงกันข้าม หากเลือกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ก็จะได้ทั้งดอกเบี้ยที่น่าพอใจ ความสะดวกในการใช้บริการ อีกทั้งยังมีความมั่นคงปลอดภัยสูง ออนไลน์สะดวกให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังมองหา โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงพอร์ตเงินสำรองฉุกเฉินที่ต้องการทั้งความปลอดภัยและความสะดวกในการเบิกถอนมาใช้จ่าย เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับเงินสำรองฉุกเฉิน ที่ต้องการ “ทั้งความปลอดภัย และการถอนใช้ได้ทันที”
 

ทำไมเงินสำรองฉุกเฉินถึงสำคัญ แล้วเงินโบนัสช่วยได้ยังไง

    เงินสำรองฉุกเฉินคือเงินก้อนหนึ่งที่เราเก็บไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยกะทันหัน รถเสีย ถูกเลิกจ้างงาน หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่น ๆ ที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ซึ่งควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำ และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เงินโบนัสปลายปีกลายเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงด้วยเงินสำรองฉุกเฉิน เพราะโบนัสเป็นเงินก้อนใหญ่ที่เข้ามาในคราวเดียว จึงสามารถจัดสรรเงินส่วนนี้ไปเป็นเงินสำรองฉุกเฉินได้ทันที โดยไม่ต้องแบ่งออมเงินทีละน้อย ซึ่งสามารถบริหารจัดการได้ดังนี้
 

วิธีใช้เงินโบนัสสร้างเงินสำรองฉุกเฉิน

Step 1 เริ่มจากเช็กค่าใช้จ่ายรายเดือน แล้วดูว่าเงินสำรองที่มีอยู่เพียงพอสำหรับ 3-6 เดือนของค่าใช้จ่ายประจำหรือยัง
Step 2 หากยังไม่ครบ ให้ใช้โบนัสปลายปีเติมให้ครบ โดยเลือกเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงเพื่อให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากทั่วไป และถอนใช้ได้ทันทีเมื่อจำเป็น
Step 3 กันส่วนหนึ่งไว้ใช้จ่ายเพื่อตัวเอง อาจเป็นของขวัญเล็กๆ หรือ ทริปพักผ่อน เพื่อเติมพลังใจให้พร้อมลุยงานในปีต่อไป
Step 4 หากยังมีเงินเหลือ สามารถนำไปลงทุนเพื่อให้โบนัสปีนี้ต่อยอดได้ทั้งความสุขและความมั่นคงในอนาคต

     
    เงินสำรองฉุกเฉินเป็นรากฐานของความมั่นคงทางใจที่หลายคนมองข้าม เพราะไม่ได้มีไว้เพื่อการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินเท่านั้น แต่คือความอุ่นใจว่าหากวันหนึ่งเกิดเหตุไม่คาดฝัน เราก็ยังมีเงินไว้ดูแลตัวเองและครอบครัวได้โดยไม่ต้องกังวล และเมื่อพื้นฐานตรงนี้แข็งแรงแล้ว การลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น ก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้อย่างมั่นใจและมีสติยิ่งขึ้น
 

การฝากเงินยังไม่ตกเทรนด์ แต่ต้องเลือกให้ถูกวิธี

    เมื่อเข้าใจว่าทำไมเงินสำรองฉุกเฉินสำคัญ คำถามคือ “ควรเก็บไว้ที่ไหน?” หลายคนอาจฝากไว้ในบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป แต่ความจริงคือมีทางเลือกที่ดีกว่า เช่น ผลิตภัณฑ์เงินฝากจาก Kept by krungsri ที่สามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ ได้แก่
 

• กระปุก Grow บัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงสุด 1.8% ต่อปี*

• กระปุก Together ที่สามารถจัดสรรเงินให้เป็นสัดส่วนตามเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น เงินสำรองของตัวเอง หรือกองกลางเพื่อครอบครัว ที่ช่วยกันเก็บออมก็ได้ง่ายๆ เปิดได้สูงสุด 10 กระปุก 

    ทั้งสองบัญชีสามารถเปิดและจัดการง่ายผ่านแอป Kept by krungsri สะดวก ปลอดภัย และตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โหลดแอป และสมัครตามขั้นตอนง่ายๆ ได้เลย ไม่มีบัญชีธ.กรุงศรีก็สมัครได้ คลิกดาวน์โหลดแอป

*อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามประกาศของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ณ วันที่ฝาก
 

บทสรุป 
 

    โบนัสปลายปีคือโอกาสทองในการสร้าง “เงินสำรองฉุกเฉิน” เพียงเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากดอกเบี้ยสูงที่มีความยืดหยุ่น ก็จะได้ทั้งดอกเบี้ยและความคล่องตัวในการใช้จ่ายเมื่อต้องการ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ไม่อยากเลือกระหว่างผลตอบแทนกับอิสระทางการเงิน ดังนั้นเมื่อโบนัสเข้าบัญชีอย่าเพิ่งรีบใช้จนหมด ลองกันบางส่วนไว้เป็นกองทุนฉุกเฉิน และใช้บางส่วนเพื่อเริ่มสร้างฐานการเงินที่มั่นคง เพราะเงินก้อนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความอุ่นใจในทุกสถานการณ์ และเป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่มั่นคง
 

ข้อมูลอ้างอิง :
•    https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/1-precuation-saving-to-avoid-financial-problem
•    https://thairath.co.th/money/personal_finance/financial_planning/2877674
•    https://www.bot.or.th/th/satang-story/rights-responsibility/savings-book.html