ชวนมาดาวน์โหลด Kept
รับดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี* ถอนได้ ไม่มีเงื่อนไข!
ในปี 2025 ที่ตลาดการเงินเผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าและเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน ตราสารหนี้กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง ด้วยระดับ
Bond Yield
ที่ยังอยู่ในจุดสูง
สะท้อนราคาตลาดที่น่าดึงดูด ขณะเดียวกัน สัญญาณจากธนาคารกลาง โดยเฉพาะ
ยุโรป
เริ่มชัดเจนว่าวัฏจักร
ดอกเบี้ยขาลง
ได้เริ่มต้นแล้ว ซึ่งจะหนุนให้มูลค่าตราสารหนี้ปรับตัวขึ้นในอนาคต ดังนั้น ด้วยคุณสมบัติทั้งการสร้าง
รายรับที่สม่ำเสมอ
และโอกาส
กำไรจากส่วนต่างราคา
ตราสารหนี้จึงกลายเป็น “จุดสมดุล” ที่ตอบโจทย์ทั้งความมั่นคงและผลตอบแทนในภาวะตลาดผันผวนนี้ได้
ผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) 10 ปี ของสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี และญี่ปุ่น อยู่ใกล้เคียงระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี บ่งชี้ว่ามูลค่าปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ หรือมีราคาที่น่าสนใจเนื่องจากอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว สะท้อนว่า ตราสารหนี้จากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ตลงทุนในช่วงต่อจากนี้
ที่มา: Bloomberg ณ วันที่ 29 เมษายน 2568
วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงกำลังเป็นปัจจัยหนุนตลาดตราสารหนี้ทั่วโลก โดยเฉพาะโอกาสในการสร้าง
กำไรส่วนต่างราคา (
Capital
Gain)
เมื่อ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (
Bond Yield)
ปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ตลาดคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางหลายแห่ง โดยเฉพาะในยุโรป จะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในปี 2025 ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรยุโรปโดดเด่นเป็นพิเศษในเชิงมูลค่า สอดคล้องกับข้อมูลในอดีตที่สะท้อนว่า
พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ
10
ปี
มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในทุกภาวะเศรษฐกิจ ภายในระยะเวลา 2 ปีหลังจากการลดดอกเบี้ยครั้งแรก ตอกย้ำโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง
ที่มา: J.P. Morgan Asset Management, Morgan Stanley
ที่มา: Bloomberg ณ วันที่ 13 มีนาคม 2568, Goldman Sachs
เปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนตราสารหนี้ในช่วงวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงไปกับ
กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อินเวสต์เมนต์ เกรด ออพพอร์ทูนิตี้
หรือ
LHGIGO
ที่คัดสรรตราสารหนี้คุณภาพเยี่ยมระดับ Investment Grade จากทั่วโลก ลงทุนผ่านกองทุนหลัก
Man Global Investment Grade Opportunities
มีให้เลือกลงทุนทั้งชนิดสะสมมูลค่า (Class-A), ชนิดจ่ายเงินปันผล (Class-D) และชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Class-E)
รายละเอียดอื่น ๆ ของกองทุน LHGIGO
ที่มา: Presentation กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อินเวสต์เมนต์ เกรด ออพพอร์ทูนิตี้ (LHGIGO) ณ วันที่ 31 มกราคม 2568
ขั้นตอนที่ 1: การประเมินมูลค่า (Valuations)
จากตราสารหนี้ทั่วโลกกว่า 18,300 ฉบับ ทีม Man ใช้กลยุทธ์การคัดกรองแบบไดนามิก เพื่อเฟ้นหาตราสารหนี้ที่มีศักยภาพสูงสุดในการสร้างผลตอบแทนที่ปรับด้วยความเสี่ยง (Risk-adjusted returns) โดยมีการติดตามมูลค่าอย่างใกล้ชิด เพื่อจับจังหวะการลงทุนในตลาดที่น่าสนใจได้อย่างแม่นยำ
คัดกรอง 1% - 10% ของตราสารหนี้ทั้งหมด ตามสภาวะตลาดและธีมการลงทุน กำหนดเงื่อนไขการชดเชยส่วนต่างขั้นต่ำ (Minimum spread compensation) ที่ไม่ผันผวนตามวัฏจักรเครดิต พร้อมติดตามตราสารหนี้แต่ละตัวและเหตุการณ์สำคัญในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
ขั้นตอนที่ 2: การประเมินความเสี่ยง (Assess Risks)
คัดกรองผู้ออกตราสารอย่างเข้มข้นจำนวน 150 ถึง 250 ราย วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน โดยใช้โมเดลที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กร เพื่อประเมินศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสด ควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ด้านการเงิน ธุรกิจ และกฎหมาย
ขั้นตอนที่ 3: ส่วนเผื่อความปลอดภัย (Margin of Safety)
สร้างพอร์ตการลงทุนแบบความเชื่อมั่นสูง (High conviction portfolio) ประมาณ 100-120 รายการ เน้นการบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด โดยเลือกลงทุนเฉพาะในโอกาสที่ผลตอบแทนคุ้มค่าความเสี่ยง และมีการติดตามอย่างสม่ำเสมอ พร้อมขายทำกำไรเมื่อพันธบัตรมีมูลค่าถึงเป้าหมายที่กำหนด
ที่มา: Presentation กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อินเวสต์เมนต์ เกรด ออพพอร์ทูนิตี้ (LHGIGO) ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
สัดส่วนรายประเทศและอุตสาหกรรม กองทุนหลักเน้นลงทุนในตราสารหนี้ยุโรปในสัดส่วนที่มากกว่าสหรัฐฯ โดยมองหาโอกาสในกลุ่มการเงินยุโรปที่มีมูลค่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน (Deep Value) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีกระแสเงินสดแข็งแรง มีความสามารถในการสร้างรายได้ต่อเนื่อง
ในด้านตราสารหนี้รายตัว กองทุนหลักเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพระดับ Investment Grade มากกว่า 80% ของพอร์ตการลงทุน โดยมีกลยุทธ์เพิ่มผลตอบแทน (Yield Enhancement) ด้วยการลงทุนตราสารหนี้ระดับ BBB ในสัดส่วนค่อนข้างสูง เพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน
นอกจากนี้กองทุนยังมีการคัดกรอง ติดตามตราสารรายตัว และวิเคราะห์เหตุการณ์ในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเลือกเฉพาะพันธบัตรที่มีมูลค่าน่าสนใจ มีปัจจัยขับเคลื่อนผลตอบแทนเฉพาะตัว และมีสถานะเครดิตที่แข็งแกร่ง
ที่มา: Presentation กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล อินเวสต์เมนต์ เกรด ออพพอร์ทูนิตี้ (LHGIGO) ณ วันที่ 5 มีนาคม 2568
*ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะของสินทรัพย์ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นเหนือ Benchmark ในทุกช่วงเวลา จากการลงทุนในสินทรัพย์ระดับ Investment Grade หรือกลุ่มตราสารหนี้ที่มีคุณภาพเครดิตสูง ด้วยกระบวนการที่คัดกรองตราสารเป็นรายตัว ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความมั่นคงและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง
กองทุน LHGIGO เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาโอกาสลงทุนในช่วงดอกเบี้ยขาลง และต้องการกระจายลงทุนท่ามกลางสถานการณ์ตลาดที่ผันผวนด้วยตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนโดดเด่นเหนือ Benchmark
กองทุนหลักบริหารจัดการจัดการโดย Man Group ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์บริหารการลงทุนระดับโลก มีมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมดภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ (AuM) ทั่วโลก กว่า 168.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลปี 2024)
ทีมผู้จัดการกองทุนมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์งบการเงินและประเมินความเสี่ยงด้านเครดิต โดยลงทุนแบบไม่ยึดติดกับดัชนี และปรับพอร์ตยืดหยุ่นเพื่อคว้าโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาด ความสามารถในการคัดเลือกตราสารหนี้ของทีมผู้จัดการกองทุนนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กองทุนได้รับการจัดอันดับ Morningstar ระดับ 5 ดาว และสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจในช่วงเวลาที่ผ่านมา
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | การลงทุนในกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงิน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนอาจลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FinnomenaPort”