ชวนมาดาวน์โหลด Kept
รับดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี* ถอนได้ ไม่มีเงื่อนไข!
หนังสือ
"One Up On Wall Street"
หรือ
“เหนือกว่าวอลสตรีท”
ของ
Peter Lynch
(ปีเตอร์ ลินช์) คงเป็นชื่อที่ใครหลายคนน่าจะรู้จักหรือเคยเห็นผ่านตามาบ้าง หนังสือนี้ถือกล่าวถึงแนวคิดและกลยุทธ์การลงทุนที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ที่ Peter Lynch ใช้ในการประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น
โดยเฉพาะในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งผู้จัดการกองทุนที่
Fidelity Magellan Fund
ซึ่งเขาสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้นได้อย่างยอดเยี่ยมกว่า 29% ต่อปี ในช่วงระยะเวลา 13 ปีที่ Fidelity Investments
สิ่งที่ทำให้
"One Up On Wall Street"
โดดเด่นคือแนวคิดที่ว่า
"นักลงทุนทั่วไป"
อย่างเรา ๆ มีโอกาสเอาชนะมืออาชีพใน Wall Street ได้ หากรู้จักใช้สิ่งที่อยู่รอบตัวให้เป็นประโยชน์
Lynch สอนให้เรามองหาโอกาสจากสิ่งที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ หรือร้านค้าที่เราเห็นว่ามีลูกค้าแน่นตลอดเวลา แนวคิดนี้ไม่เพียงจุดประกายแรงบันดาลใจให้คนธรรมดาเข้าสู่โลกการลงทุน แต่ยังแสดงให้เห็นว่าทุกคนสามารถเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ หากมีความรู้พื้นฐานและวินัยในการลงทุน
Peter Lynch | Source:
Peter Lynch เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม 1944 ที่เมืองนิวตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เมื่ออายุ 10 ขวบ พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ทำให้ครอบครัวต้องเผชิญความยากลำบากทางการเงิน โดย Lynch เริ่มทำงานเป็นเด็กถือถุงกอล์ฟ (แคดดี้) ที่สนามกอล์ฟระดับสูงอย่าง Brae Burn Country Club เพื่อช่วยเหลือครอบครัว
และนี่คือสถานที่ที่เขาได้พบกับ
D. George Sullivan ประธานบริษัท Fidelity
ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำพาเขาเข้าสู่โลกการเงินในอนาคต
Lynch สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยบอสตัน (Boston College) ในปี 1965 สาขาประวัติศาสตร์ จิตวิทยา และปรัชญา จากนั้นเขาได้รับปริญญาโทบริหารธุรกิจ (MBA) จากโรงเรียนธุรกิจวอร์ตัน มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (Wharton School of the University of Pennsylvania) ในปี 1968
หลังจากสำเร็จการศึกษา ในปี 1969 เขาเริ่มต้นทำงานที่
Fidelity Investments
โดยเริ่มจากตำแหน่งนักวิเคราะห์หุ้นในอุตสาหกรรมสิ่งทอ โลหะ เหมืองแร่ และเคมีภัณฑ์ ก่อนจะไต่เต้าขึ้นเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยในปี 1974
Fidelity Investments | Source:
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของ Lynch เกิดขึ้นในปี 1977 เมื่อเขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการกองทุน
Fidelity Magellan Fund
ขณะมีอายุเพียง 33 ปี
ภายใต้การนำของ Lynch กองทุนนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) เพียง
18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เป็น
14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพิ่มขึ้นกว่า
777 เท่า!
ภายในระยะเวลาเพียง 13 ปี
คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น 29% ต่อปี
ซึ่งมากกว่าดัชนี S&P 500 ถึง 2 เท่า
สถิติอันน่าทึ่งนี้ทำให้ Lynch กลายเป็นหนึ่งในฐานะผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ การลงทุนของเขาชนะดัชนี S&P 500 มากถึง 11 จาก 13 ปีที่เขาบริหารกองทุน Fidelity Magellan Fund
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Peter Lynch แตกต่างจากนักลงทุนทั่วไปคือ
แนวคิดการลงทุนในสิ่งที่รู้จัก
หรือ
"Invest in What You Know"
Lynch เชื่อว่าคนทั่วไปสามารถประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้โดยการลงทุนในธุรกิจที่คุ้นเคย เช่น ลงทุนในร้านอาหารที่เราชอบ หรือแบรนด์ที่เราใช้สินค้าอยู่ตลอด ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถประเมินศักยภาพของบริษัทได้ดี
อีกทั้ง Lynch ยังพัฒนาเครื่องมืออย่าง
PEG Ratio
(Price-to-Earnings-to-Growth) เพื่อประเมินว่าหุ้นตัวนั้นถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไร
โดยอีกหนึ่งแนวคิดที่ไม่ซับซ้อนแต่ทรงพลังของ Peter Lynch คือการที่เขาแบ่งหุ้นออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่
หุ้นโตเร็ว
(Fast Growers),
หุ้นแข็งแกร่ง
(Stalwarts),
หุ้นโตช้า
(Slow Growers),
หุ้นฟื้นตัว
(Turnarounds),
หุ้นวัฏจักร
(Cyclicals) และ
หุ้นทรัพย์สินมาก
(Asset Play) แนวคิดนี้ช่วยให้นักลงทุนเลือกหุ้นที่เหมาะกับเป้าหมายและสไตล์ของตัวเอง
นอกจากนั้น เขายังแนะนำให้ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน และเน้นการลงทุนที่มี
“Growth at a Reasonable Price” (GARP)
หรือเลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูงในราคาเหมาะสม
บริการช่วยเหลือบางส่วนของ Fidelity | Source:
จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ Peter Lynch ในการบริหารกองทุน Fidelity Magellan Fund ระหว่างปี 1977 - 1990 ทำให้
Fidelity Investments
กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่เชื่อถือได้ในวงการการเงินและการลงทุนระดับโลก อีกทั้งยังนำเสนอกองทุนที่หลากหลาย ช่วยให้สามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายส่วนบุคคล
แม้ Peter Lynch จะลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการกองทุน Fidelity Magellan Fund มากว่า 30 ปีแล้ว แต่ปรัชญาการลงทุนของเขายังคงมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมการลงทุนของ Fidelity Investments จนถึงปัจจุบัน โดยสามารถเห็นได้จาก
Fidelity ยังคงให้ความสำคัญกับการศึกษาพื้นฐานเชิงลึกอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกับที่ Lynch ปฏิบัติ บริษัท Fidelity มีทีมนักวิเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ทำการศึกษาบริษัทต่าง ๆ อย่างละเอียด และมีการเยี่ยมชมบริษัทโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่ Lynch ยึดถือในการทำความเข้าใจธุรกิจ
เช่นเดียวกับ Lynch ที่ไม่จำกัดตัวเองในสไตล์การลงทุนเพียงแบบเดียว Fidelity ปัจจุบันมีกองทุนที่หลากหลายครอบคลุมทุกประเภทการลงทุน ทั้งแบบ Growth, Value, Blend และอื่น ๆ ตามความเหมาะสมของสภาวะตลาด
Lynch เชื่อว่านักลงทุนรายย่อยสามารถประสบความสำเร็จได้หากมีความรู้ที่เหมาะสม Fidelity ดำเนินตามแนวคิดนี้ด้วยการให้ความรู้แก่นักลงทุนผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Fidelity Learning Center ที่มีบทความ วิดีโอ สัมมนา และเครื่องมือวิเคราะห์มากมาย
Lynch มองหาบริษัทที่มีนวัตกรรมและเติบโตอย่างรวดเร็ว Fidelity ปัจจุบันยังคงแนวคิดนี้ด้วยการจัดตั้งกองทุนที่เน้นลงทุนในนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Fidelity Disruptive Technology Fund ที่ลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพสร้างการเปลี่ยนแปลง
B-INNOTECH เป็นกองทุนหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกจาก Fidelity Funds ที่เน้นการเสาะหาหุ้นเติบโต (Growth) สูงภายใต้ Valuation ที่เหมาะสม และยังสามารถลงทุนในหุ้นวัฏจักร และหุ้นที่มีสถานการณ์พิเศษ เช่น การควบรวม เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว พร้อมด้วยนโยบายบริหารแบบ Active ที่ผู้จัดการกองทุนมีความตื่นตัว เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และปรับพอร์ตลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
อ้างอิง: Investopedia, Barrons, Fidelity, Motley Fool, Siamquant
คำเตือน
:
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299