125 views
20 March 2025

หมายเหตุ

: บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นในทุกวันจันทร์ ดังนั้นบทความบางส่วนอาจจะมีความคลาดเคลื่อนของข้อมูลได้

 

MACROECONOMICS

 

 

Key Takeaways

 

 

  • Core Retail Sales MoM มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น
  • FED Interest Rate Decision มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิม
  • Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น

 

WEEKLY TONE: MONITOR WEEK

ในสัปดาห์นี้มีตัวชี้วัดที่สำคัญอย่างการตัดสินใจในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่มีการคาดการณ์ว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยแต่จะคงอัตราดอกเบี้ย และอีกทั้งนโยบายการเงินในหลายประเทศมีโอกาสที่จะปรับเปลี่ยนทำให้สัปดาห์นี้ควรเฝ้าดูตลาด และเฝ้าดู FED Dot Plot เพื่อดูโอกาสในการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในการประชุมครั้งถัดไป

 


 

 

Important Economic Data this week :

 

 

1. Core Retail Sales MoM

 

Core Retail Sales หรือ ดัชนียอดค้าปลีก เป็นการวัดค่าการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายอดขายทั้งหมดในระดับการค้าปลีก ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญมากที่สุดที่บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นส่วนสำคัญมากที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม สำหรับ Retail Sales ที่ไม่รวมการซื้อรถ จะเรียกว่า Core Retail Sales

คาดการณ์จาก Tradingeconomic:

Core Retail Sales มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก -0.4% เป็น 0.2%

 

 

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/retail-sales-ex-autos

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Core Retail Sales แสดงให้เห็นถึงการ Rebound ของ Core Retail Sales ในระยะสั้น หรือการที่มียอดการค้าปลีกบยกเว้นรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยการที่ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นเยอะ ทำให้ยังมีความผันผวนในระยะสั้นบนตลาดสินทรัพย์เสี่ยง

 

2. FED Interest Rate Decision

 

FED Interest Rate Decision หรือ สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินแห่งสหรัฐฯ หรือ FOMC ได้มีการลงคะแนนเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ย นักเก็งกำไรต่างเฝ้าติดตามคำพูดของเขาอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดค่าเงินตราและความผันผวนของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ

คาดการณ์จาก Tradingeconomic:

FED Interest Rate Decision มีแนวโน้มที่จะคงที่เท่าเดิมที่ 4.25% - 4.50%

 

 

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/core-inflation-rate-mom

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

การคาดการณ์การคงที่เท่าเดิมของ FED Interest Rate แสดงให้เห็นถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่เข้าเป้าในการลดอัตราดอกเบี้ยของ FED อาจทำให้ตลาดมีความผันผวนในระยะสั้น โดยที่สินทรัพย์เสี่ยงจะได้รับผลกระทบโดยตรง

 

3. Unemployment Claims

 

Initial Jobless Claims หรือ Unemployment Claims คือจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนค่าใช้จ่ายของรัฐได้ชัดกว่าอัตราการว่างงาน เพราะยิ่งตัวเลขนี้สูงขึ้นนั่นหมายความว่าค่าใช้จ่ายของภาครัฐ หรือ Government Expenditure ถูกใช้ไปในการช่วยเหลือกลุ่มคนว่างงานมากขึ้น เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะหดตัว และยังแสดงให้เห็นถึงช่องว่างความเหลื่อมล้ำในประเทศอีกด้วย โดยตัวเลขนี้จะมีประกาศทุก ๆ วันพฤหัสบดี

คาดการณ์จาก Tradingeconomic:

Unemployment Claims มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นจาก 220K เป็น 225K

 

 

 

Source : https://tradingeconomics.com/united-states/jobless-claims

 

ตีความอย่างไรต่อตลาด

การคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Unemployment Claims แสดงให้เห็นถึงพลเมืองของสหรัฐฯ ที่ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงภาพรวมของเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม ดัชนีนี้ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโดยตรง

 


 

 

CRYPTOCURRENCY EVENT THIS WEEK

 

 

Credit from LayerGG

 

Key Event

 ที่น่าสนใจที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์และอาจจะทำให้เกิดความผันผวนกับสินทรัพย์ดิจิทัล

18 มีนาคม

 

    • การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น

 

19 มีนาคม

 

    • การประชุม FOMC

 

 

Weekly Crypto Must Watch

 

 

 

 

Source : https://www.coinglass.com/FundingRateHeatMap

 

ในส่วนของ Funding rate สำหรับอาทิตย์นี้ยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ แสดงถึงมุมมองของนักลงทุนต่อตลาดที่ยังคงเป็นเชิงลบ และทำการเปิดสถานะชอร์ตมากกว่าสถานะลอง โดยรวมแล้ว บ่งบอกถึง Sentiment ของตลาดที่ไม่ค่อยดี

 

 

 

Source : https://www.coinglass.com/BitcoinOpenInterest

 

ในฝั่งของ Bitcoin Open Interest มีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย บ่งบอกถึงการเปิดความเสี่ยงของนักลงทุนที่ทะยอยเพิ่มขึ้นมา แต่ก็ยังมีสัดส่วนที่น้อย โดยในสัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องจับตา BOJ และ FED ซึ่งเตรียมแสดงจุดยืนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

 

 

 

Source : https://farside.co.uk/?p=997

 

ในส่วนของ Bitcoin ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 921.4 ล้านเหรียญ หลังตัวเลข CPI ประกาศต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสให้ FED ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และนักลงทุนจับตาการประชุม FOMC ในสัปดาห์นี้ อย่างใกล้ชิด

 

 

 

Source : https://farside.co.uk/?p=1518

 

ในส่วนของ Ethereum ETF Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสเงินไหลออกสุทธิที่ 189.9 ล้านเหรียญซึ่งยังคงเป็นอีกหนึ่งอาทิตย์ที่ไม่มีการไหลเข้าของเงินทุน และยังคงเผชิญแรงเทขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนรอปัจจัยบวกจาก Ethereum หรือสัญญาณเชิงบวกจากภาวะเศรษฐกิจ

 

Ethereum DEX Market Declines While Stablecoin Usage Continues to Grow

 

จำนวนกระเป๋าเงินที่ซื้อขายบน DEXs ของ Ethereum แบบรายวันลดลงเหลือเพียง 39,900 กระเป๋าซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 และลดลง 45% จากช่วงต้นปีที่เคยเฉลี่ย 78,000 กระเป๋าต่อวัน แนวโน้มขาลงนี้ดำเนินมา 3 เดือน โดยลดลงเฉลี่ย 0.58% ต่อวันขณะเดียวกัน Uniswap ซึ่งเป็น DEX ที่ใหญ่ที่สุดบน Ethereum มีปริมาณการซื้อขายลดลง 19% เดือนต่อเดือน จากมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2025 และจากแนวโน้มปัจจุบัน มีโอกาสสูงที่ปริมาณการซื้อขายในเดือนมีนาคมจะลดลงอีก

 

 

แม้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะเผชิญแรงกดดัน แต่ ระบบนิเวศของ Stablecoin บน Ethereum ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยปริมาณการโอนบนเครือข่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 800,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนกระเป๋าเงินที่ทำธุรกรรมก็เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดแตะ 600,000 กระเป๋าต่อสัปดาห์ USDC และ USDT ยังคงครองตลาด Ethereum ยังคงเป็นเครือข่ายหลักของ Stablecoin โดยมี USDC มูลค่า 35,000 ล้านดอลลาร์ และ USDT มูลค่า 67,000 ล้านดอลลาร์

 

 

ขณะเดียวกัน ด้านกฎระเบียบเริ่มมีความชัดเจนขึ้น โดยรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังผลักดันร่างกฎหมาย Stablecoin เพื่อกำหนดมาตรฐานและกำกับดูแล ซึ่งจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้กับผู้ให้บริการ Stablecoin เช่น Circle (USDC), Paxos (USDP) และ PayPal (PYUSD) แม้ว่าตลาดคริปโตจะมีความผันผวน แต่ปริมาณการใช้งาน Stablecoin ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง

 


 

 

WEEKLY TECHNICAL ANALYSIS

 

 

by Cryptomind Advisory

 

 

BTC/USDT

 

 

 

$BTC ยังคงมี Momentum ขาลงอยู่ในกรอบขาลง โดยในระยะสั้นก่อนหน้านี้ได้มีการดีดตัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่อาจเป็นการขึ้นเพื่อย่อต่อไปก่อนในช่วงข้างหน้านี้ มุมมองในการกลับตัวนั้นราคาควรจะมีการ Sideway ก่อนหรือออกจากกรอบขาลงก่อน ในฝั่ง RSI เริ่มมี Divergence ให้เห็นบ้างแล้วซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่เราได้เข้าใกล้กับ Local Bottom มากขึ้นแล้ว

แนวต้าน : $87,000 | $92,000 | $100,000

แนวรับ : $78,000 | $72,000 | $67,000

 

ETH/USDT

 

 

 

$ETH ยังคงเกาะอยู่บนแนวรับในกรอบขาลง ระยะสั้นในส่วน RSI มีการทำ Bullish Divergence เกิดขึ้นแล้วทำให้อาจมีโอกาสที่จะทำราคาขึ้นในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ตามในภาพรวมก็ยังมีโอกาสที่จะเป็นการขึ้นเพื่อลงต่ออยู่ในตอนนี้

แนวต้าน : $2,100 | $2,800 | $3,400

แนวรับ : $1,500 | $1,200 | $870

 


 

 

ASSET ALLOCATION

 

 

by Cryptomind Advisory

 

Bitcoin Dominance ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงมากกว่า 50% และเมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจที่ผันผวนในสัปดาห์นี้และสถานการณ์เงินเฟ้อที่ยังไม่สู้ดีนัก จึงแนะนำให้นักลงทุนถือสัดส่วนของ Bitcoin เอาไว้เพื่อลด Drawdown โดยรวมของพอร์ต บวกกับถือสัดส่วนของ Altcoins ที่มีพื้นฐานที่ดี และเก็บ Stablecoin ที่เป็น USD เพื่อใช้เป็นไม้สำรอง

 

BITCOIN 60%

SELECTIVE LARGE MARKET CAP 10%

STABLECOINS 30%

 

 

คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน

 

 

ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต

 

 

Merkle Capital

 

ที่มา: https://merkle.capital/articles/Merkle-Weekly-Snapshot-17-21-March-2025

 


 

คำเตือน

สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

 

| ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอนาคต | ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ข้อเสนอการลงทุนหรือการจัดการใด ๆ ของการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล | เนื้อหาข้างต้นเป็นการรวบรวมเนื้อหาโดยใช้ข้อมูลในอดีตอาจมีการคลาดเคลื่อนได้ นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจก่อนลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล