ชวนมาดาวน์โหลด Kept
รับดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี* ถอนได้ ไม่มีเงื่อนไข!
เมื่อพูดถึงเดือนมกราคม หลายคนอาจจะนึกถึงการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความหวังและเป้าหมายใหม่ ๆ แต่สำหรับนักลงทุน
“January Effect”
กลายเป็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเสมอในช่วงต้นปี
เนื่องจากมีความเชื่อว่าเดือนนี้จะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น
แล้วมันเป็นเรื่องจริงหรือแค่ความเชื่อกันแน่?
มาทำความเข้าใจทฤษฎีนี้ไปพร้อมกันเลย!
January Effect คือ ทฤษฎีที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นในเดือนมกราคม เนื่องจากนักลงทุนจะขายทำกำไรจากการลงทุนช่วงสิ้นปีก่อนหยุดยาว และช่วงเดือนมกราคมจะกลับเข้ามาลงทุนใหม่อีกครั้งในสินทรัพย์ที่ราคายังไม่แพง
โดยคำอธิบายที่เป็นไปได้อีกทางหนึ่งคือนักลงทุนซื้อคืนภาษีช่วงต้นปี หรืออาจจะนำเงินโบนัสช่วงสิ้นปีมาลงทุนในช่วงเดือนถัดไป
ปรากฏการณ์ January Effect ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะโชคช่วย แต่มาจากพฤติกรรมการลงทุน ดังนี้
เชื่อกันว่า
Sidney Wachtel นักวาณิชธนกิจ (Investment Banker)
เป็นผู้ที่ได้สังเกตเห็นปรากฏการณ์ January Effect เป็นครั้งแรกในปี 1942
โดยปรากฏการณ์
January Effect
ไม่ได้เป็นเพียงความเชื่อในหมู่นักลงทุนเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาศึกษาอย่างจริงจังในเชิงวิชาการ งานวิจัยหลายชิ้นได้พยายามอธิบายถึงสาเหตุและผลกระทบของปรากฏการณ์นี้ โดยเฉพาะกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช่น
Source: Finnomena Funds, Bloomberg, as of 25/10/2024
เรามาสำรวจข้อมูลดัชนี
S&P 500 ย้อนหลัง 21 ปี (2004 - 2025)
เพื่อทำความเข้าใจว่าผลตอบแทนในเดือนมกราคมสะท้อนถึงปรากฏการณ์ January Effect อย่างไร
จากสถิติย้อนหลัง 21 ปี
ดัชนี S&P 500
ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือนมกราคมเพียง
0.06%
ซึ่งอาจดูไม่สูง แต่หากพิจารณาในแง่ความถี่ของผลตอบแทนที่เป็นบวก จะพบว่าในช่วง 21 ปีที่ผ่านมา ตลาดมีผลตอบแทนในเดือนมกราคมเป็นบวกถึง
12 ปี หรือประมาณ 57% ของช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล
จากข้อมูลดังกล่าวสามารถตีความได้ว่า
ดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มตอบสนองต่อปรากฏการณ์นี้
โดยเฉพาะในปีที่ไม่มีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจหรือการเมืองที่โดดเด่น เช่น ปี 2019 และ 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดได้รับแรงสนับสนุนจากแรงซื้อหลังสิ้นปีอย่างชัดเจน
Source: Finnomena Funds, Bloomberg, as of 25/10/2024
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย จากสถิติย้อนหลัง 21 ปี พบว่า
SET Index
ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือนมกราคมเป็นลบที่ -
0.18%
ซึ่งขัดแย้งกับทฤษฎีที่ว่าตลาดหุ้นควรจะปรับตัวขึ้นในเดือนมกราคม และหากพิจารณาในแง่ความถี่ของผลตอบแทนที่เป็นบวก จะพบว่าในช่วง 21 ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนในเดือนมกราคมเป็นบวก
11 ปี หรือประมาณ 52% ของช่วงเวลาที่เก็บข้อมูล
ความแตกต่างของ
January Effect
ในตลาดไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อาจเป็นผลมาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างหลายประการ
โดยเฉพาะระบบภาษีที่แตกต่างกัน
ทำให้แรงจูงใจในการขายทำกำไรช่วงสิ้นปีของนักลงทุนไทยน้อยกว่า
นอกจากนี้ การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยมักได้รับอิทธิพลจากปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยภายนอก มากกว่าปัจจัยตามฤดูกาล (Seasonal Effect)
จากข้อมูลและงานวิจัยพบว่า
แม้ว่า January Effect จะเป็นปรากฏการณ์ที่ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้น แต่ผลลัพธ์ในแต่ละปีอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งภายในและภายนอก การพิจารณาปัจจัยพื้นฐานอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ว่าเราจะเชื่อในปรากฏการณ์นี้หรือไม่
อ้างอิง:Finnomena Live, WEALTH CONNEX BY BUALUANG SECURITIES, Investopedia