316.0 K views
14 March 2024

Finnomena Funds เข้าสู่โหมด Wait and See บรรยากาศการลงทุนเริ่มสั่นคลอน เมื่อตลาดหุ้นโลกเจอจุดวัดใจ หลังหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานหนักสุดตั้งแต่ต้นปี และยังมีประเด็น Unwind Yen Carry Trade ที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด

Wait and See รอให้รู้ จับตาดู Unwind Yen Carry Trade

 

ดูคำแนะนำทั้งหมดได้ที่ ? Opportunity Hubแหล่งรวมโอกาสการลงทุนจาก Finnomena

 

 


 

ถือเป็นจังหวะวัดใจทิศทางตลาดหุ้นโลกเลยทีเดียว ว่าจะลุยไปต่อ หรือชะลอตัวพักฐาน เปิดทางให้ตลาดหมี (Bearish) กำลังมาเยือน

Wait and See รอให้รู้ จับตาดู Unwind Yen Carry Trade

 

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 24/02/2025

 

หลังสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นสหรัฐฯ (S&P 500) ปรับตัวลง -1.66% WoW โดยเจอแรงกดดันจากการประกาศตัวเลข S&P Global Composite PMI ภาคการผลิตและบริการ ลดลงสู่ 50.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นจุดตํ่าสุดในรอบ 17 เดือน พร้อมด้วยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Michigan Consumer Sentiment) ปรับตัวลงสู่ระดับ 64.7 ซึ่งตํ่ากว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 67.8 สะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าคาด

Wait and See รอให้รู้ จับตาดู Unwind Yen Carry Trade

 

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 24/02/2025

 

อีกประเด็นที่จุดชนวนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มหวั่นใจ คือ การกลับมาของ

Unwind Yen Carry Trade

เนื่องจากญี่ปุ่นประกาศเงินเฟ้อ (CPI) เดือนกุมภาพันธ์ เร่งตัวขึ้น 4.0% ถือว่าสูงสุดในรอบ 2 ปี และสูงเกินเป้าหมายของ BoJ ที่ตั้งไว้ 2% ถึงสองเท่า! และถ้าดูเฉพาะเงินเฟ้อที่ไม่รวมอาหารสด จะอยู่ที่ 3.2% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

จึงเป็นแรงกดดันต่อ BoJ มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งทะลุขีด ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณเตือนแล้วจาก Bond Yield พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีnี่ขึ้นไปแตะเกิอบ 1.5% สูงสุดในรอบ 12 ปี ประกอบกับการเริ่มกลับมาแข็งค่าของเงินเยน ทำให้ถูกเชื่อมโยงไปถึงเหตุการณ์ Unwind Yen Carry Trade ที่เคยเขย่าหุ้นโลกมาแล้วตอน Black Monday เมื่อเดือนสิงหาคม 2024

- อธิบาย Yen Carry Trade คืออะไร? คลิกอ่านต่อได้ที่นี่

 

ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา

 

 

  1. การประกาศตัวเลข PCE และ Core PCE สหรัฐฯ ถือเป็นปัจจัยต่อการตัดสินใจการใช้นโยบายการเงินของ Fed โดยตลาดคาดการณ์ว่าดัชนี PCE จะยังคงขยายตัวในระดับเดิม เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2024 ที่ระดับประมาณ 0.3% MoM ในขณะที่ในด้านของ Core PCE มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นจาก 0.2% MoM มาเป็น 0.3% MoM
  2. การประชุม Shunto ซึ่งกระบวนการต่อรองค่าจ้างประจำปีระหว่างสหภาพแรงงานญี่ปุ่นกับนายจ้าง ตัวแปรสำคัญที่อาจส่งผลต่อทิศทางเงินเฟ้อของญี่ปุ่น
  3. โมเมนตัมตลาดว่าจะมีแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมาเป็นจำนวนมากแค่ไหน หรือตลาดอาจเกิดการเรียนรู้จาก Black Monday รอบที่แล้ว จึงไม่ได้ตกใจเท่าครั้งแรก

 

 

เทียบ Economic Surprise ตอนเหตุการณ์ Black Monday ครั้งที่แล้ว กับสถานการณ์ปัจจุบัน

 

Wait and See รอให้รู้ จับตาดู Unwind Yen Carry Trade

 

Source: Finnomena Funds, Bloomberg as of 24/02/2025

 

กราฟนี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่าง

Citi Economic Surprise

ของสหรัฐกับญี่ปุ่น และความเคลื่อนไหวของค่าเงิน USD/JPY โดยมีจุดสังเกต ดังนี้

 

  1. กราฟท่อนบน (Economic Surprise Index)แสดงตัวเลขเศรษฐกิจของแต่ละประเทศว่าออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ จะเห็นว่าช่วงก่อนเกิด  Black Monday สิงหาคม 2024 เศรษฐกิจสหรัฐ (เส้นสีดำ) ตัดลดลงต่ำกว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น (เส้นสีฟ้า)
  2. กราฟท่อนล่าง (ค่าเงิน USD/JPY และส่วนต่าง Economic Surprise)เส้นสีเขียว คือ ค่าเงิน USD/JPY (ค่าเงินดอลลาร์เทียบเยน) เส้นสีเหลือง คือ ส่วนต่าง Citi Economic Surprise (สหรัฐ - ญี่ปุ่น) จะเห็นว่าช่วง Black Monday ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นตามเศรษฐกิจความอ่อนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐ และความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจญี่ปุ่น
  3. สรุปแล้ว Black Monday ครั้งก่อน มีจุดเปลี่ยนสำคัญจากเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าญี่ปุ่น ทำให้ดอลลาร์อ่อนค่า เยนแข็งค่า ซึ่งแนวโน้มปัจจุบันกำลังมีสัญญาณที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา

 

 

มุมมองการลงทุน Finnomena Funds

 

แนะนำ Wait and See ชะลอการลงทุนในหุ้นโลก และหุ้นสหรัฐกลุ่ม Growth ที่ Valuation เริ่มตึงตัว โดยในระยะสั้นอาจใช้จังหวะนี้กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น จึงแนะนำกองทุนตราสารหนี้โลกชนิดป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน ได้แก่ UGIS-N และ KF-CSINCOM

UGIS-N / KF-CSINCOM (ความเสี่ยงระดับ 5)

กองทุนตราสารหนี้โลก แบบป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เป็นจังหวะเก็บสะสมในจังหวะที่เศรษฐสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ที่บริหารแบบ Active มีการปรับ Duration ยืดหยุ่นสอดรับกับสถานการณ์ตลาด

สำหรับมุมมองในระยะยาว ยังคงสามารถทยอยเก็บสะสมหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลกที่ Valuation ไม่แพง เน้นกลยุทธ์แบบ Active ปรับเปลี่ยนทันท่วงทีตามสภาวะตลาดอย่างกองทุน B-INNOTECH

B-INNOTECH (ความเสี่ยงระดับ 6)

กองทุนหุ้นเทคโนโลยี เน้นคัดเลือกหุ้น Value Play โดยการเข้าซื้อหุ้นเติบโตในราคาไม่แพง ขณะเดียวกันปัจจัยเชิงพื้นฐานเฉพาะตัวยังคงดี และช่วงที่ผ่านมาก็มีการปรับพอร์ต โดยลดสัดส่วน Mag-7 หันมาเก็บหุ้น AI ปลายน้ำ และบิ๊กเทคในจีน เช่น Alibaba สะท้อนถึงการเป็น Active Fund ที่ทันต่อกระแสตลาด

ด้านมุมมองต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น เราคงคำแนะนำ Slightly Negative นอกจากนี้ ยังต้องจับตาทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯ หากอ่อนแอกว่าคาดต่อเนื่อง อาจจำเป็นต้องพิจารณาเปลี่ยนมุมมองในอนาคต

อย่างไรก็ดี ถ้าตลาดเกิดการปรับฐาน Finnomena Funds มองว่าจะเป็นโอกาสกลับเข้าซื้ออีกครั้ง (Healthy Correction) และยังไม่ใช่การจบรอบขาขึ้นครั้งใหญ่

 

ดูคำแนะนำทั้งหมดได้ที่ ? Opportunity Hubแหล่งรวมโอกาสการลงทุนจาก Finnomena

 

 


 

คำเตือน:

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | กองทุนรวมนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสารหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของ พอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | คำแนะนำการลงทุนนี้เป็นไปตามกรอบการพิจารณาของ Finnomena Funds ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระยะเวลาตามแต่ละประเภทของพอร์ตเท่านั้น บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE @FinnomenaPort | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299