71 views
27 February 2024

หุ้นอินเดียเป็นตลาดแห่งความหวังของใครหลายคน จากการถูกหมายมั่นว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ร้อนแรงมากที่สุดในปีนี้ ส่วนหุ้นอินเดียเองก็ยืนระยะได้อย่างมั่นคง

แต่ในอีกแง่ตลาดหุ้นอินเดียก็ดูจะเป็นดินแดนลึกลับที่นักลงทุนจำนวนมากไม่ค่อยรู้จัก จนบางครั้งอาจจะพลาดโอกาสไปแบบน่าเสียดาย

เอาเป็นว่า… หากใครอยากเริ่มต้นลงทุนใน

 ‘ตลาดหุ้นอินเดีย’

 อยากมีกองทุนหุ้นอินเดียติดพอร์ต บทความนี้จะพามาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่ต้องรู้ โอกาสและปัจจัยเสี่ยงของตลาดหุ้นอินเดียอยู่ตรงไหน พร้อมกองทุนหุ้นอินเดียที่ Finnomena Funds คัดมาให้แล้ว

 

กองทุนอินเดีย

 

 

ความน่าสนใจของประเทศอินเดีย

 

 

1. เศรษฐกิจเติบโตเร็วที่สุดในโลก

 

ในปี 2023 อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจโตเร็วที่สุดในโลก Real GDP growth อยู่ที่ 6.3% นอกจากนี้

OECD คาดการณ์ว่าปี 2024-2025 เศรษฐกิจอินเดียจะมี GDP เติบโตที่ 6.1% และ 6.5% ตามลำดับ ถือว่าเติบโตมากที่สุดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก แถมแซงหน้าจีนเป็นที่เรียบร้อย

และหากมองไปที่มูลค่า GDP อินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และเยอรมัน เท่านั้น

จุดที่น่าสนใจ คือการเติบโตของอินเดียไม่ได้มาจากการส่งออกเป็นหลัก แต่เป็นการใช้จ่ายภายในประเทศ ซึ่งหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญก็คือแผนพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ

Atmanirbhar Bharat ‘อินเดียที่พึ่งพาตนเอง’ ของรัฐบาล Narendra Modi

real GDP อินเดีย

 

Source: OECD Economic Outlook as of 12/02/2024

 

 

2. จำนวนประชากรมากที่สุดในโลก และเต็มไปด้วยวัยแรงงาน

 

อินเดียมีความได้เปรียบเชิงโครงสร้างประชากรเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีจำนวนประชากรเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว ด้วยจำนวนกว่า 1,429 ล้านคน

ประชากรส่วนใหญ่ยังมีอายุเฉลี่ยที่น้อยเพียง 28.2 ปีเท่านั้น โดยอยู่ในวัยทำงานมากถึง 68% จึงเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาได้อีกมากในอนาคต เนื่องจากความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานและคุณภาพของประชากรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กองทุนหุ้นอินเดีย

 

Source: reuters.com as of 20/04/2023

 

 

3. โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรง

 

อินเดียมีความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรองรับการเป็นฐานการผลิตใหม่ของโลกในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เนื่องจากรัฐบาลได้อัดฉีดเม็ดเงินลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนพัฒนาสำคัญ เช่น 

 

  • BharatMalaProject ส่งเสริมด้านโลจิสติกส์ภายในประเทศ และการเชื่อมต่อระหว่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ
  • SaubhagyaProject เพื่อให้คนอินเดียทุกครัวเรือนจะต้องมีไฟฟ้าใช้ 
  • BharatNetProject เป้าหมายให้คนอินเดียก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล โดยสามารถเข้าถึงและใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อหาความรู้ และทำธุรกรรมออนไลน์

 

 

4. ความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐอเมริกา

 

อินเดียและสหรัฐฯ มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี เรียกว่าเป็นเหมือนหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง เพราะทั้งคู่ต่างยังต้องการกันและกัน เพื่อคานอำนาจการขยายอิทธิพลของจีน

กองทุนหุ้นอินเดีย

 

Source: REUTERS/Jonathan Ernst

 

 

โอกาสและความเสี่ยงของตลาดหุ้นอินเดีย

 

เห็นความน่าสนใจในแง่ของภาพรวมเศรษฐกิจไปแล้ว ทีนี้ลองมาเจาะลึกลงไปดูในระดับอุตสาหกรรมและตลาดหุ้นกันบ้าง ว่าตอนนี้หุ้นอินเดียมีโอกาสอะไรรออยู่ข้างหน้า หรือมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องไหนบ้างที่ต้องระวัง

 

แรงซื้อต่างชาติไหลกลับเข้าหุ้นอินเดียต่อเนื่อง

 

หุ้นอินเดียปรับฐานช่วงต้นปีพักนึง ก่อนที่จะกลับมาวิ่งฉิวเป็นขาขึ้นยาว ๆ โดยมีปัจจัยหนุนจากการเข้ามาไล่ซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่คาดหวังการเติบโตทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่ง สวนทางประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียที่ดูสะดุดลง 

Bloomberg

รายงานว่าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2023 นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นอินเดีย 9,400 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นกว่า 30% ของมูลค่า Market Cap.

กองทุนหุ้นอินเดีย

 

Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 26/06/2023

 

 

Valuation ที่แพง แต่แลกกับการเติบโต

 

แม้ว่า Valuation ของหุ้นอินเดียยังอยู่ในโซนสูง แต่ก็ถือว่าปรับลดลงมาประมาณนึงแล้ว รวมทั้งแลกมากับโอกาสการเติบโตที่สูงในอนาคต ซึ่งหุ้นอินเดียถูกปรับคาดการณ์กำไรดีกว่าหุ้นโลกต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีก่อน 

กองทุนหุ้นอินเดีย

 

Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 26/06/2023

 

 

ดัชนี PMI ขยายตัวสูง และมีโมเมนตัมที่ดี

 

ดัชนีที่บ่งชี้สภาวะทางเศรษฐกิจของภาคการผลิตและบริการอย่างดัชนี PMI (Purchasing Managers' Index) ที่วัดความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในประเทศ สะท้อนว่าอินเดียกำลังขยายตัวได้ในระดับสูงมากอย่างต่อเนื่อง และเหนือว่าประเทศอื่น ๆ ในหลายแง่มุม

กองทุนหุ้นอินเดีย

 

Source: FINNOMENA, Bloomberg as of 26/06/2023

 

 

รู้จักดัชนีหุ้นอินเดีย มีอะไรบ้าง?

 

ตลาดหุ้นอินเดียจะมีดัชนีหลักของประเทศที่เทรดกันบนสกุลเงินรูปีอินเดียด้วยกัน 2 ดัชนี ได้แก่ 

 

  • Nifty 50 คือ ดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 50 ตัวแรกในตลาดหุ้นอินเดีย
  • Sensex คือ ดัชนีที่ประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 30 ตัวแรกในตลาดหุ้นอินเดีย

 

แต่ดัชนีซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดของกองทุนรวมเพื่อใช้เป็นตัวชี้วัด (Benchmark) สำหรับตลาดหุ้นอินเดีย คือ

MSCI India

ที่ประกอบด้วยหุ้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ 114 ตัวในตลาดหุ้นอินเดีย

อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 ดัชนีมีสัดส่วนการให้น้ำหนักในหุ้นและกลุ่มอุตสาหกรรมค่อนข้างคล้ายคลึงกัน โดยหุ้น Top Holding นำมาด้วย

Reliance

ที่เป็นบริษัทพลังงานและปิโตรเคมี, ธุรกิจธนาคารและสินเชื่ออย่าง

ICCI Bank

และ

Housing Dev Finance

ตลอดจนธุรกิจไอทียักษ์ใหญ่

อย่าง

Infosys

และ

Tata Consultancy Services 

 

กองทุนไทยที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นอินเดีย

 

ถ้าเริ่มสนใจลงทุนในหุ้นอินเดีย ปัจจุบันมีกองทุนไทยที่มีนโยบายลงทุนในอินเดียให้เลือกมากมาย ดังนี้

 

กองทุนหุ้นอินเดีย Active Fund

 

 

 

 

กองทุนหุ้นอินเดีย Passive Fund

 

 

 

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่

https://www.finnomena.com/fund/

 

กองทุนหุ้นอินเดียแนะนำ

 

 

B-BHARATA กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ

 

กองทุนหุ้นอินเดียที่มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก RAMS Investment Unit Trust - India Equities Portfolio Fund II ไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV โดยมีกลยุทธ์การลงทุน Active Management เน้นลงทุนในธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศอินเดีย

 

  • ค่าความเสี่ยงของกองทุนอยู่ที่ระดับ 6
  • นโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (FX Hedging 50.16 %)
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ 500 บาท

 

 

กองทุนอินเดีย

Source: FINNOMENA FUND as of 12/02/2024

 

 

TISCOINA-Aกองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย แอคทีฟ อิควิตี้ ชนิดสะสมผลตอบแทน

 

กองทุนที่

ลงทุนในหุ้นอินเดียผ่าน 3 กองทุนหลักคือ 1.) Nomura Funds Ireland plc India Equity Fund ใช้กลยุทธ์ Active คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up 25-30 ตัว จาก Universe ประมาณ 240 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ 2.) FSSA Indian Subcontinent Fund ใช้กลยุทธ์ Active คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up ที่ประกอบธุรกิจในอินเดีย, ศรีลังกา, ปากีสถาน และบังคลาเทศ เน้นลงทุน 50 ตัว กระจายในหุ้นขนาดใหญ่ กลาง เล็ก 3.) Goldman Sachs India Equity Portfolio ใช้กลยุทธ์ Active คัดเลือกหุ้นด้วยวิธี Bottom-up ประมาณ 70-100 ตัว จาก Universe ประมาณ 700 ตัว ส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

 

  • ค่าความเสี่ยงของกองทุนอยู่ที่ระดับ 6
  • ปัจจุบันกองทุนไม่ได้มีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
  • เงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท

 

 

TISCOINA-A

Source: FINNOMENA FUND as of 12/02/2024

 

 

เปรียบเทียบกองทุน B-BHARATA vs TISCOINA-A

 

เปรียบเทียบกองทุนอินเดีย

 

กราฟแสดงผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ข้อมูล ณ 21/02/2024 ที่มา: www.finnomena.com/fund/compare/

** ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต **

 

 

เปรียบเทียบกองทุนอินเดีย

 

 

ตารางเปรียบเทียบข้อมูลกองทุน ข้อมูล ณ 21/02/2024 ที่มา: www.finnomena.com/fund/compare/

 

สุดท้ายนี้ใครที่มีความสนใจและมองเห็นโอกาสต่อศักยภาพการเติบโตของประเทศอินเดีย หรืออาจจะต้องการกระจายเงินลงทุนในตลาด Emerging Market ใหม่ ๆ นอกเหนือจากจีนและเวียดนาม ตลาดหุ้นอินเดียก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าศึกษาและทำความเข้าใจไว้

สามารถศึกษารายละเอียดของกองทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://www.finnomena.com/fund/

 


 

แหล่งข้อมูล

 

 

คำเตือน

การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม และประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299