ชวนมาดาวน์โหลด Kept
รับดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี* ถอนได้ ไม่มีเงื่อนไข!
หากพูดถึง
‘ยุโรป’
หลาย ๆ คนคงนึกถึงสินค้าแบรนด์เนมเป็นอันดับแรก แต่ต้องขอบอกว่ายุโรปไม่ได้มีแค่บริษัทเหล่านั้นเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทที่น่าสนใจอีกมากมาย บทความนี้จึงขอชวนทุกคนมาดู 10 ‘หุ้นยุโรป’ ที่น่าสนใจ พร้อมนำกองทุนหุ้นยุโรปแนะนำสำหรับคนที่สนใจลงทุนในหุ้นยุโรปมาฝากกัน
Novo Nordisk คือบริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกสัญชาติเดนมาร์ก ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘NVO’
บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา โดยเฉพาะยาสำหรับการดูแลโรคเบาหวานที่จำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘Ozempic’ และยาเพื่อรักษาโรคอ้วนภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘Wegovy’ นอกจากนี้ยังผลิตยาเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ภายใต้แบรนด์ในเครือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Levemir, Tresiba, NovoLog, Novolin R, NovoSeven, NovoEight และ Victoza โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน Novo Nordisk ถือเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วยมูลค่าตลาด (Market Cap) กว่า 537.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ก.พ. 2567)
LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton
หรือ
LVMH
เป็นกลุ่มบริษัทสินค้าหรูหราสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี 1987 จากการควบรวมกิจการของ Louis Vuitton กับ Moët Hennessy จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ ปารีส (Euronext Paris) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘MC’
โดยในเดือนเมษายน 2023 LVMH กลายเป็น
บริษัทยุโรปแห่งแรกที่มีมูลค่าบริษัทเกิน 500 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจุบันมีคุณ Bernard Arnault บุคคลที่รวยติดอันดับโลกนั่งเก้าอี้ CEO ของ LVMH
LVMH ดำเนินธุรกิจผ่าน 6 ภาคส่วน ภายใต้แบรนด์ในเครือกว่า 75 แบรนด์ ได้แก่
ASML Holding หรือ ASML เป็นบริษัทโฮลดิ้งด้านเซมิคอนดักเตอร์สัญชาติดัตช์ ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์
โดย
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ อัมสเตอร์ดัม (Euronext Amsterdam) และตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (NASDAQ) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘ASML’
บริษัทเชี่ยวชาญในการพัฒนาและผลิต
ระบบลิโทกราฟีแบบใช้แสง (photolithography) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ดำเนินงานผ่านบริษัทในเครือทั่วโลกทั้งในประเทศ
เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ เบลเยียม เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเซีย และอิสราเอล
ปัจจุบัน ASML เป็นผู้ผลิตเครื่องผลิตชิปรายใหญ่ให้กับบริษัทผลิตชิปทั่วโลก เช่น TSMC
L'Oréal
เป็นบริษัทผลิตภัณฑ์เสริมความงามสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี 1909 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ ปารีส (Euronext Paris) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘OR’
ในเดือนตุลาคม ปี 1963 ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและทำสีผม เครื่องสำอาง และน้ำหอม โดยดำเนินธุรกิจผ่าน 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
Hermès เป็นบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี 1837 โดย Thierry Hermès จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ ปารีส (Euronext Paris) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘RMS’
ปัจจุบัน Hermès ผลิตและจำหน่ายสินค้าหรูหราหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า ผ้าพันคอ เนกไท เครื่องประดับ นาฬิกา น้ำหอม เสื้อผ้าและของใช้เด็ก ตลอดจนของใช้ภายในบ้านและของเบ็ดเตล็ด เช่น จานชาม เครื่องเขียน สายคล้องมือถือ ฯลฯ โดยทำการจัดจำหน่ายสินค้าของแบรนด์ผ่านทางออนไลน์และร้านค้าสาขาของ Hermès ทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชีย และอเมริกา
Accenture เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจที่ให้บริการใน 120 ประเทศทั่วโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองดับลินประเทศไอร์แลนด์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘ACN’
โดยดำเนินธุรกิจผ่าน 5 ส่วนงานหลัก ได้แก่
SAP เป็นบริษัทด้านซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันระดับองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และ
ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลกรองจาก Adobe
ด้วยมูลค่าตลาด (Market Cap) กว่า 211.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.พ. 2567) ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทิมแบร์คในประเทศเยอรมนี โดยจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt Stock Exchange) และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘SAP’
SAP มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ ERP ซึ่งเป็นโปรแกรมมาตรฐานที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจสำหรับองค์กรทุกขนาด เช่น เช่น การจัดซื้อ การผลิต การจัดการวัสดุ การขาย การตลาด การเงิน และทรัพยากรบุคคล (HR) ปัจจุบันมีบริษัทที่ใช้งานซอฟต์แวร์ของ SAP กว่า 6,000 บริษัท ใน 50 ประเทศทั่วโลก
Dior เป็นบริษัทสินค้าฟุ่มเฟือยสัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 โดยนักออกแบบแฟชั่นชาวฝรั่งเศสที่มีนามว่า ‘Christian Dior’ และได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ ปารีส (Euronext Paris) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘CDI’
โดยมีคุณ Bernard Arnault CEO ของ LVMH นั่งเก้าอี้ประธานบริษัท Dior
ปัจจุบัน Dior มุ่งเน้นไปที่การออกแบบ ผลิต และจำหน่ายสินค้าหรูหราทั้งเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับ รองเท้า นาฬิกา น้ำหอม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิว นอกจากนี้ยังมีสินค้าสำหรับเด็กที่อยู่ภายใต้แบรนด์ ‘Baby Dior’ และสินค้าสำหรับผู้ชายที่อยู่ภายใต้แบรนด์ ‘Dior Homme’ โดยจัดจำหน่ายสินค้าของแบรนด์ผ่านทางออนไลน์และร้านค้าสาขาของ Dior มากกว่า 400 แห่งทั่วโลก ทั้งในยุโรป สหรัฐฯ และเอเชีย
Airbus เป็บริษัทยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในอุตสากรรมการบิน ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 จากการควบรวมกิจการของ
DaimlerChrysler Aerospace, Aérospatiale-Matra และ Construcciones Aeronáuticas และ
ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซต์ ปารีส (Euronext Paris), ตลาดหลักทรัพย์มาดริด (Madrid Stock Exchange) และตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt Stock Exchange) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘EAD’
โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและจำหน่ายเครื่องบินพาณิชย์ อากาศยานทางการทหาร จรวด ขีปราวุธ และดาวเทียม
ผ่านการดำเนินธุรกิจ 3 ส่วนงาน ได้แก่
Allianz เป็นบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินสัญชาติเยอรมัน ก่อตั้งขึ้นในปี 1890 ณ เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี โดยมีธุรกิจหลักคือการประกันภัยและการบริหารสินทรัพย์ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แฟรงค์เฟิร์ต (Frankfurt Stock Exchange) ภายใต้สัญลักษณ์หุ้น
‘ALV’
Allianz มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสินทรัพย์ให้กับทั้งลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กร ซึ่งเปิดให้บริการในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน Allianz เป็น 1 ใน 5 อันดับ บริษัทประกันชีวิตและประกันสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็น 1 ใน 3 ของบริษัทประกันวินาศภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กองทุนหุ้นยุโรปในไทยที่เราจะหยิบมาพูดถึงในบทความนี้มี 2 กองทุน ได้แก่ กองทุน ONE-EUROEQ และ SCBEUEQA โดยทั้ง 2 กองทุนเป็นที่อยู่ใน FINNOMENA Pick (F Pick) ที่ผ่านการคัดสรรโดย FINNOMENA Investment Team ผ่านการวิเคราะห์ทั้งในเชิงปริมาณ (Quantitative) และในเชิงคุณภาพ (Qualitative) แล้วว่าเป็นกองทุนหุ้นยุโรปที่น่าสนใจ
นโยบายการลงทุน:
ลงทุนในหุ้นของบริษัทยุโรปที่พิจารณาแล้วเห็นว่ามีแนวโน้มการเติบโตในระดับที่น่าสนใจและมีความสามารถในการแข่งขันในช่วงระยะเวลา 3-5 ปี ผ่านกองทุน Eleva European Selection Fund Class I (EUR) acc (กองทุนหลัก) ที่บริหารจัดการโดย ELEVA Capital ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญในการลงทุนในหุ้นยุโรป
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน:
มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management)
ระดับความเสี่ยง:
6
มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป:
1 บาท
ศึกษาข้อมูลกองทุน ONE-EUROEQ เพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวน (Fund Factsheet)
https://www.one-asset.com/doc_fund/Fund%20Summary%20Prospectus/ONE-EUROEQ_summary_prospectus.pdf
นโยบายการลงทุน:
ลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี STOXX Europe 600 เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี STOXX Europe 600 ผ่านกองทุน iShares STOXX Europe 600 (DE) (กองทุนหลัก)
กลยุทธ์ในการบริหารจัดการลงทุน:
มุ่งหวังให้ผลประกอบเคลื่อนไหวตามดัชนีชี้วัด (Passive Management)
ระดับความเสี่ยง:
6
มูลค่าขั้นต่ำของการซื้อครั้งแรกและครั้งถัดไป:
1 บาท
ศึกษาข้อมูลกองทุน SCBEUEQA เพิ่มเติมได้ในหนังสือชี้ชวน (Fund Factsheet)
https://www.scbam.com/medias/fund-doc/summary-prospectus/SCBEUEQA_SUM.pdf
— planet 46.
คำเตือน
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | กองทุนลงทุนกระจุกตัวในอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย | ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการป้องกันความเสี่ยงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 026 5100 และทาง LINE “@FINNOMENAPORT” | สำหรับผู้ลงทุนในความดูแลของ Kept by krungsri ติดต่อทีม Kept help center ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 296 6299