246 views
12 March 2025

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงระนาว เมื่อคืนวานนี้ (10 มีนาคม 2025) โดย

ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2.7%

ขณะที่

Nasdaq ลบไปถึง 3.8%

จากความกลัวเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession Fear) ที่กลับมาหลอกหลอนนักลงทุนอีกครั้ง ปัจจัยกดดันหลายด้านทำให้ตลาดเริ่มไม่มั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนโยบายภาษีของทรัมป์ GDP มีแนวโน้มชะลอตัว และตลาดแรงงานเริ่มอ่อนแอ

 

Recession Fear

 

ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาโพสต์บน Truth Social ว่าเขาจะผลักดันนโยบาย

“America First”

ด้วยการเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าทุกประเภทจากแคนาดาและเม็กซิโก ยกเว้นน้ำมันและพลังงานจากแคนาดาที่ถูกเก็บภาษี 10% 

ส่วนสินค้าจากจีนถูกปรับขึ้นภาษีอีก 10% จากเดิมที่เคยประกาศไว้ ทำให้รวมแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 20%

ด้าน

Goldman Sachs

คาดว่า หากนโยบายนี้บังคับใช้เต็มรูปแบบ

GDP สหรัฐฯ อาจลดลง 0.8%

ขณะที่

Morgan Stanley

ประเมินว่าอาจลดลงถึง

1.1%

นอกจากนี้ ข้อมูล

GDPNow จาก Atlanta Fed

บอกว่าไตรมาสแรกของปี 2025

เศรษฐกิจอาจติดลบถึง 2.4%

ถ้าตัวเลขนี้เป็นจริง 2 ไตรมาสติดกัน ก็จะเข้าข่าย Recession แบบเต็มตัว 

ด้านตลาดแรงงานก็ส่งสัญญาณที่น่ากังวล รายงานจาก

Trading Economics

ระบุว่า การจ้างงานใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์มีเพียง

151,000 ตำแหน่ง

ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี และการขอสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้นเป็น

1.897 ล้านคน

ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

 

มาดูข้อเท็จจริงกัน

 

อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Trading Economics ยังระบุอีกว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ อยู่ที่

4.1%

ซึ่งถือว่ายังไม่ถึงจุดอันตราย 

Claudia Sahm นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง

เคยบอกว่า

“ถ้าตัวเลขอัตราการว่างงานพุ่งเกิน 4.5% ในเวลาสั้น ๆ ค่อยเริ่มกังวล”

แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น

ทั้งนี้

การใช้จ่ายของผู้บริโภค

ยังคงมีโมเมนตัมที่ดีในช่วงต้นปี 2025 โดยได้แรงหนุนจาก

ค่าจ้างหลังหักภาษี

ที่เติบโต

3%

เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)

ด้าน

ค่าจ้างที่แท้จริง (Real Wage Growth)

ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดย

U.S. Bureau of Labor Statistics

รายงานว่า ค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงที่แท้จริงเพิ่มขึ้น

1.0%

จากธันวาคม 2023 ถึงธันวาคม 2024

Federal Reserve Bank of Atlanta

ระบุการเติบโตเฉลี่ย

1.8%

ในช่วงมกราคม 2024 - 2025 ส่วน

Economic Policy Institute

คาดการณ์การเติบโต

1 - 2%

ในปี 2024 - 2025 โดยเฉพาะในกลุ่มรายได้ต่ำที่เติบโตสะสม 13.2% ตั้งแต่ 2019 - 2023 

และ

Bank of America Institute

ชี้ว่า

ค่าจ้างหลังหักภาษีที่แท้จริงเพิ่มขึ้น 3%

ในธันวาคม 2024 เทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอลงจากช่วงสูงสุดในยุคโควิด แต่แนวโน้มยังคงเป็นบวกจากการที่เงินเฟ้อลดลงเหลือ

3 - 4%

ในต้นปี 2025 แปลว่าชาวอเมริกันยังมีเงินในกระเป๋า และหนี้ครัวเรือนก็ยังไม่พุ่งถึงขั้นวิกฤต

ด้าน

Jerome Powell ประธาน Fed

ระบุว่า เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง และพร้อมลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการเติบโตหากจำเป็น ซึ่งหมายความว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ใกล้เข้าสู่ Recession จริง ๆ Fed ก็ยังมีเครื่องมือที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าว

 

สรุปแล้วเสี่ยงแค่ไหน?

 

ย้อนกลับไปปี 2023 สมัยที่ทุกคนกลัว Recession เหมือนกัน

Goldman Sachs เคยให้โอกาสถึง 30%

แต่สุดท้ายเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับเติบโตต่อเนื่องถึง

7 ไตรมาสที่อัตรา 1.5% ขึ้นไป

 

ทั้งนี้ แม้จะมีความเสี่ยงในการเกิด Recession แต่โอกาสในการเกิดขึ้นยังคงอยู่ในระดับปานกลาง โดย

J.P. Morgan

ปรับโอกาสเกิด Recession

จาก 17% เป็น 31%

ในวันที่ 7 มีนาคม ขณะที่ Goldman Sachs ประเมินไว้ที่

20% 

แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับภาวะถดถอยจะมีอยู่ แต่ข้อมูลหลายอย่างยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง นโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์อาจสร้างความสั่นสะเทือน แต่ Fed และการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจ

 


 

อ้างอิง: Bank of America Institute, Bureau of Labor Statistics, CNN